..เว็บไซด์ชมรมอั้งไห้ยี้ หงไห่เห๋อ ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกท่าน ครับ..

ประวัติอั้งไห้ยี้

พระโพธิสัตว์ในรูปนั้นทรงอยู่ในปางประทานบุตรทรงอุ้มพระกุมาร(กิมท้ง)ไว้ในพระอุระ พระกุมารดังกล่าวก็ถือลงในหมวดกิมท้งเช่นกัน( กิมท้ง นั้นเป็นชื่อตำแหน่งของพระกุมารชาย กิมท้งแต่ละพระองค์จะทรงพระนามว่าอะไรนั้น ผู้เขียนมีข้อมูลไม่เพียงพอ ในจริยะเทวาอริยะฐานะของสายธรรมโซยที(สายธรรมของโกวเนี้ย) ได้กล่าวว่า ทิพยวิมานได้แบ่งเทพเทวาเป็น 24 หมวด อาทิ เทวาหมวดอักษร(เจี้ยวฮว่า) เทวาหมวดจริยะระเบียบ(หลี่กุย)เทวาทิพยบัลลังค์ เป็นต้นใน 24 หมวดนี้ ทพเซียนต่างต้องรับผิดชอบในภาระหน้าที่ของตน แต่หน้าที่บนพระวิมานนั้นหาได้มีเพราะเง็กเซียนเป็นผู้ประทานให้ แต่เป็นเพราะการตั้งปณิธานของผู้บำเพ็ญปฏิบัติเองตั้งแต่ยังอยู่ในโลกมนุษย์ เช่น ในตอนมีชีวิตอยู่ได้ตั้งปฌิธานเผยแพร่ธรรมะ แสดงวิถีทางแก่มหาชน ครั้นเมื่อดับสังขารนี้ไป ก็ไปเสวยฐานะเป็นพระเทวาหมวดจริยะระเบียบ คอยเป็นธรรมโฆษกเทพ ประกาศพระสัทธรรมบนทิพยวิมาน) พระกุมารเทพอั๊งไห้ยี๊ (ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า หงไหเอ๋อ) หมายถึงพระกุมารแดง ทรงอาภรณ์สีแดง มีศาตราวุธประจำพระองค์คือ ทวนยาว สามารถพ่นไฟที่มีอำนาจร้ายแรง มีของวิเศษได้แก่ รองเท้าที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ อั๊งไห้ยี๊ จัดเป็นพระกุมารที่คนรู้จักกันมากที่สุดพระองค์หนึ่งในกลุ่มพระกุมาร 6 พระองค์ได้แก่ 1จินจา 2 มู่จา 3 นาจา 4 ซ่านไฉ 5 หลงหนี่ 6 หงไหเอ๋อ พระกุมารเทพ 3 พระองค์แรกเสวยพระภาระตั้งแต่สมัยพระอริยะบุพมาตานึ่งออ (นึ่งออเนี่ยเนี๊ย) สร้างโลก พระกุมารซ่านไฉและหลงหนี่บังเกิดขึ้นในสมัยปลายราชวงศ์โจว เป็นพระอุปัฏฐากพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ส่วนพระกุมารหงไหเอ๋อบังเกิดขึ้นจากตำนานการอัญเชิญพระตรัยปิฎกของพระถังซำจั๋งครั้งเมื่อราชวงศ์ถังได้รวบรวมแผ่นดินจงหยวน(ภาคกลางของจีน)ได้อย่างราบคาบ พระจักรพรรดิ์ถังไท่จง(หลี่ซื่อหมิง)ทรงทำนุบำรุงประเทศชาติเป็นอย่างดี กาลนั้นพระสมณเหี้ยนจั๊งผู้คงแก่เรียน ได้ทำการศึกษาพระพุทธคัมภีย์จนแตกฉานในพระไตรปิฎก แต่เนื่องจากเหตุการณ์สงครามเมื่อครั้งต้นพระราชวงศ์ ทำให้วัดวาอารามพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาถูกเผาทำลายไปเป็นจำนวนมาก พระสมณะเจ้าจึงมีดำริจะไปอัญเชิญพระพุทธคัมภีร์ยังอินเดียเพื่อหวังกลับมาเผยแพร่พระสัทธรรมของพระศาสดาเจ้าให้เวไนยสัตว์ได้รู้ตื่นพ้นจากห้วงทุกข์ พระสมณะเจ้าเป็นพระภิกษุที่มาจากเมืองถังครั้นเมื่อเดินทางกลับมาได้แปลพระคัมภีร์จากภาษาสันสกฤตเป็นภาษาจีนมากมายจนได้พระสมณศักดิ์เป็นพระธรรมาจารย์ตรีปิฎก(ซำ จั๊ง ฮวบ ซือ)ดังนั้นจึงขนานนามท่านว่า พระถังซำจั๋ง นิทานเรื่องไซอิ๋วนั้นแต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งมีระยะเวลาห่างไกลจากราชวงศ์ถังหลายร้อยปี ในไซอิ๋วกล่าวว่า ครั้นพระสมณะเหี้ยนจั้ง(พระถัง)เดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎก ไปพบภูเขาไฟใหญ่กีดขวางทางอยู่ด้านหน้า ซึงหงอคงจึงรับอาศาไปขอยืมพัดเหล็กจากองค์หญิงพัดเหล็ก เหตุนี้เองจึงทำให้เกิดตำนานอั๊งไห้ยี้ อั๊งไห้ยี๊ เป็นบุตรของอ๋องกระทิงและองค์หญิงพัดเหล็ก เมื่อครั้งที่มารดาตั้งท้องได้ไปขอพระบุตรจากพระโพธิสัตว์กวนอิม พระกวนอิมโพธิสัตว์เห็นว่าเธอตั้งใจรักษาศีลกินเจ จึงได้ประทานพระกุมารน้อยให้บังเกิดในครรภ์ขององค์หญิงพัดเหล็กนั่นเอง ครั้นเมื่อเติบโตขึ้น มีอิทธิปาฏิหาริ์ย์ใช้รองเท้าขิงบิดาเดินน้ำเหาะทยานในอากาศ สามารถพ่นไฟที่ทรงพลานุภาพ มีอาวุธคือทวนยาว แต่อาภัพเพราะบิดาไปมีภรรยาน้อยหลายคนจึงกลายเป็นเด็กมีปัญหา ต่อมาได้คบเพื่อนเลวและถูกยุยงให้ไปฆ่าพระถังมาเพื่อบริโภค พระโพธิสัตว์กวนอิมได้มอบฐานบัววิเศษให้หงอคงนำไปจับตัวอั๊งไห้ยี้ ผลสุดท้ายอั๊งไห้ยี๊ถูกจับตัวและพระถังได้เทศนาจนกลับใจ ส่วนเพื่อนเลวก็ถูกอานุภาพแห่งพระสูตรที่ชื่อว่า ปรัชญาปารมิตาสูตร ครั้นเมื่อพระถังพร้อมลูกศิษย์ร่วมกันภาวนาพระสูตรดังกล่าวเพื่อนมารก็ถึงที่ตาย อั๊งไห้ยี้ตั้งใจสำนึกตัวด้วยความผิดที่ฆ่าประชาชนตายไปในศึกที่สู้กับหงอคง จึงตั้งปณิธานไปบำเพ็ญตัวที่ภูเขาโพ่วท้อซันซึ่งเป็นพระพุทธบรรพตที่พระโพธิสัตว์กวนอิมพำนักอยู่ อั๊งไห้ยี๊เดินทางจากบ้านด้วยวิธี ซาน ขู่ อิ๊ ป่าย(เดิน 3 ก้าวกราบ 1 กราบ )ระหว่างเดินไปกราบไปก็ภาวนา นำมอกวนซืออิมผู่สักด้วย จนไปถึงภูเขา >ตำนานไท้จื้อกราบกวนอิมก้อกำเนิดมาจากตำนานนี้นี่เอง